เรามีความภาคภูมิใจที่เราเป็นบริษัทการค้าที่ถือหุ้นโดยคนไทย 100% นานกว่า 50 ปี ด้วยภูมิหลังที่ยาวนานฐานะการเงินที่มั่นคงรวมถึงทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการธุรกิจและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาชื่อเสียงและทำทุกวันของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เราเป็นผู้นำหนึ่งในสิบของทุกธุรกิจที่เราเลือกทำในปัจจุบันและอนาคต

ดูเพิ่มเติม   

ข่าวสารและบทความ

ดูทั้งหมด
SCBX ปิดดีลขาย Robinhood ให้กลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกลุ่มยิบอินซอย

ส่งต่อแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีของคนไทยเพื่อคนไทย

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 30 กันยายน 2567 - บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย ประกาศเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการ แอปพลิเคชัน  Robinhood   ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกลุ่มยิบอินซอย โดยมูลค่าการซื้อขายคิดเป็นมูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วย มูลค่าเบื้องต้นชำระทันที 400 ล้านบาท และส่วนเพิ่มตามผลประกอบการสูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาท โดยการซื้อขายในครั้งนี้อยู่ภายใต้เจตนารมณ์ที่ยังคงต้องการให้แอปพลิเคชัน Robinhood เป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อคนไทยที่สามารถแข่งขัน พร้อมดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “Robinhood เริ่มต้นธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นให้ประเทศเราได้มีแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา และเมื่อถึงเวลาที่กลุ่ม SCBX ต้องตัดสินใจส่งต่อธุรกิจ Robinhood ไปยังกลุ่มผู้ลงทุนรายต่อไป หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ที่สนใจซื้อกิจการ คือ ต้องเป็นกลุ่มธุรกิจสัญชาติไทยที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ Robinhood เป็นแพลตฟอร์มของคนไทยเพื่อคนไทยที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกลุ่มยิบอินซอยมีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโซลูชันเทคโนโลยีแบบครบวงจร แต่ที่สำคัญยังมีเจตนารมณ์ที่จะนำพา Robinhood ให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค ร้านค้า และไรเดอร์ส่งอาหาร”

นางมรกต ยิบอินซอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำของกลุ่มผู้ลงทุนยิบอินซอยในการเข้าซื้อ Robinhood จาก SCBX เราเล็งเห็นถึงศักยภาพในการให้บริการส่งอาหารของแพลตฟอร์ม Robinhood  ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง มีคุณภาพ มีความโดดเด่นในการให้บริการของไรเดอร์ที่สุภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้ ประเภทของร้านค้าที่เปิดให้บริการมีหลากหลายเพราะนอกจากจะมีร้านชื่อดังชั้นนำแล้วยังมีร้านที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่น่าสนใจ โดยเรามองว่าปัจจัยเหล่านี้ประกอบกับการเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่มีรากฐานที่ดี จึงเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มผู้ลงทุนยิบอินซอยที่จะพัฒนาธุรกิจเพื่อต่อยอดให้ Robinhood มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีความสามารถที่จะแข่งขันที่ดียิ่งขึ้น พร้อมสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจอย่างมีส่วนร่วม (inclusive growth) ให้เกิดขึ้นในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง และยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนกับร้านค้าและเศรษฐกิจของประเทศไว้ด้วยกัน”

ทั้งนี้ ลูกค้ายังคงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Robinhood ได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ โดย Robinhood จะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ สุภาพ รวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดต่อไป

เกี่ยวกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)

SCBX เป็นยานแม่ของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน โดยมี 12 บริษัทภายใต้กลุ่มฯ ครอบคลุม 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจธนาคาร (Banking Business) ธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัลและสินเชื่อเพื่อรายย่อย (Consumer and Digital Finance Business) ธุรกิจแพลตฟอร์มและเทคโนโลยี (Platform and Technology Business) รวมถึง Climate Technology มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาคที่น่าชื่นชม ดำเนินธุรกิจด้วยความคล่องตัว รอบคอบในการกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยง ตลอดจนมีขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียม

เกี่ยวกับกลุ่มผู้ลงทุนนำโดยยิบอินซอย

กลุ่มผู้ลงทุน นำโดย กลุ่มยิบอินซอย หนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร เทคโนโลยีระดับสูงด้านวิศวกรรม เทคโนโลยีด้านพลังงานและการเกษตร รวมถึงธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมทางสังคม มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพทางการค้า การลงทุนในธุรกิจที่ดีมาเกือบ 100 ปี ด้วยความภาคภูมิใจที่เป็นกิจการค้าของคนไทยที่เติบโตก้าวหน้ามาอย่างยาวนาน ทำให้ยิบอินซอยมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างนิเวศทางธุรกิจที่ดี (Good Business Ecosystem) ของแพลตฟอร์ม Robinhood ให้อยู่คู่กับเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มธุรกิจชั้นนำของไทย ประกอบด้วยกลุ่ม Brooker Group ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนที่ทันสมัย หนึ่งในบริษัทที่ถือครองทรัพย์สินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลุ่ม SCT Rental Car หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์สำหรับใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ รวมถึงบริษัทย่อยของ Loxley คือ LOXBIT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไอทีโซลูชั่นของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการให้สินเชื่อดิจิทัลครบวงจรและบริการทางการเงินที่ฝังอยู่ในระบบต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมของรัฐบาล, ธุรกิจ และผู้บริโภคเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

02 ตุลาคม 2567
ยิบอินซอยจับมือซีเมนส์ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์น้ำภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อม มุ่งส่งเสริมการเกษตรยั่งยืนในไทย

  ยิบอินซอยจับมือซีเมนส์ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์น้ำภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อม มุ่งส่งเสริมการเกษตรยั่งยืนในไทย ยิบอินซอยร่วมกับซีเมนส์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อม โดยข้อตกลงรวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตรภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อม (Controlled Environment Agriculture หรือ CEA) ของซีเมนส์ให้กับบุคลากรของยิบอินซอย ณ ศูนย์วิจัยพัฒนาและสาธิตผลิตภัณฑ์ของยิบอินซอย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาการผสานโซลูชัน CEA แบบครบวงจรจากซีเมนส์ และองค์ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรวมถึงความเชี่ยวชาญด้าน IT ของยิบอินซอย ช่วยให้ความโปร่งใสของข้อมูลอย่างรอบด้านแบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะเลี้ยงและพัฒนาคุณภาพของสัตว์น้ำเพื่อการบริโภคที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงต้นทาง (trusted traceability) อีกทั้งยังช่วยให้การใช้ทรัพยากรน้ำและพลังงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน เป็นการสนับสนุนการเกษตรยั่งยืนในไทยหนึ่งในความท้าทายหลักของผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบนบกจากอดีตจนปัจจุบัน คือการคาดการณ์และควบคุมผลผลิตให้ได้ตามต้องการ นอกเหนือจากนั้นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ในหลายปีที่ผ่านมาทำให้ความท้าทายนี้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางด้านอัตราการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ อัตราการป่วย ซึ่งทำให้ต้นทุนทางด้านอาหาร พลังงานและทรัพยากรอื่นๆที่ใช้ในการดูแลพุ่งสูงขึ้นปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการขาดข้อมูลที่ถูกต้องในการตัดสินใจที่ครบถ้วนและทันเวลา ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจจากการคาดเดาทำให้เกิดความผิดพลาด ส่งกระทบต่อภาพรวมของผลผลิต สูญเสียทรัพยากรและเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น  เทคโนโลยีและโซลูชัน CEA ที่ครอบคลุมสำหรับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในความร่วมมือนี้ อาทิระบบอัตโนมัติ ที่สามารถการจัดเก็บข้อมูลจากหลายๆระบบในฟาร์มเช่น ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อม และบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และแสดงผลแบบบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลในการให้อาหารอย่างเหมาะสม การวิเคราะห์พฤติกรรม ตรวจสอบและวิเคราะห์ความผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที ฯลฯระบบการจัดการและตรวจสอบคุณภาพน้ำและการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีความเสถียร เหมาะกับสภาวะการเพาะเลี้ยงที่ต้องการและใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น รวมถึงการนำน้ำที่ใช้แล้วมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์อื่นๆ เพื่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพสูงสุดทั้งนี้ข้อมูลแบบรวมศูนย์จากระบบต่างๆข้างต้นทำให้ผู้ประกอบการได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมแบบเรียลไทม์ อีกทั้งระบบยังสามารถแจ้งเตือนได้ทันทีเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เหล่านี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและตอบสนองต่อความผันผวนในสภาพแวดล้อมของฟาร์มได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ฟาร์มสามารถลดการสูญเสียทรัพยากรโดยไม่จำเป็น และเพิ่มอัตรารอดหรือผลผลิตในที่สุดนอกจากนี้เทคโนโลยี CEA ซึ่งควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ยังสามารถนำไปใช้เพิ่มผลผลิตเช่นการจัดตั้งฟาร์มในสถานที่ที่ทำการเพาะเลี้ยงไม่ได้มาก่อน เป็นการเพิ่มความมั่นคงทางอาหารในอนาคตโดยในบันทึกข้อตกลงนี้ ซีเมนส์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยี ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฯ เมื่อเทียบกับการเพาะเลี้ยงแบบดั้งเดิม  การร่วมมือกับยิบอินซอยในครั้งนี้จะช่วยปูทางและส่งเสริมการทำการเกษตรแบบยั่งยืนในประเทศไทย อีกทั้งเพิ่มความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศในอนาคตต่อไปABC,000 คนทั่วโลก กลุ่มธุรกิจของซีเมนส์สร้างรายได้ 77.8 พันล้านยูโร และมีผลกำไร 8.5 พันล้านยูโร ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.siemens.com

เกี่ยวกับยิบอินซอย

บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีครบวงจร ทั้ง Cloud and Infrastructure Modernization, Cyber Security, Digital Business Solutions, Data & Analytic Solutions, Professional Service, Financial & Banking Services, Communication, Navigation and Surveillance Technology รวมถึงให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ การเงินและการธนาคาร โทรคมนาคม ภาครัฐและเอกชน ด้วยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญกว่า 700 คน ที่มุ่งมั่นให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การบำรุงรักษาระบบเครือข่าย อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริม โซลูชั่นศูนย์ข้อมูล และระบบเฝ้าระวัง (หรือระบบติดตามเฝ้าระวัง) โดยเน้นความร่วมมือกับลูกค้าอย่างเป็นระบบเพื่อการให้บริการและส่งมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ลูกค้าเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน นอกจากนี้ยิบอินซอยยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกมากมาย

เกี่ยวกับซีเมนส์ 

ซีเมนส์เอจี (เบอร์ลินและมิวนิค) เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ทางด้านอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง และการดูแลสุขภาพ ธุรกิจของบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการทรัพยากรในโรงงาน การบริหารห่วงโซ่อุปทาน ระบบอาคารอัจฉริยะและระบบโครงข่ายไฟฟ้า ไปจนถึงการขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาด และการดูแลสุขภาพขั้นสูง บริษัทฯ พัฒนาเทคโนโลยีด้วยวัตถุประสงค์เพื่อมอบคุณค่าที่แท้จริงแก่ลูกค้า ซีเมนส์ช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมและตลาด เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของคนนับพันล้านโดยผสานโลกความจริงและโลกดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน ซีเมนส์เป็นผู้ถือหุ้นหลักในABCเฮลทิเนียร์ส ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการแพทย์และบริการดูแลสุขภาพดิจิทัล นอกเหนือจากนั้น ซีเมนส์ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยใน ABCเอนเนอร์ยี่ ผู้นำระดับโลกในด้านการผลิตและนำส่งพลังงานไฟฟ้า  ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อ 30 กันยายน 2566 ซีเมนส์มีพนักงาน 320,000 คนทั่วโลก กลุ่มธุรกิจของซีเมนส์สร้างรายได้ 77.8 พันล้านยูโร และมีผลกำไร 8.5 พันล้านยูโร ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.siemens.com

16 กันยายน 2567

การแนะนำบริษัท ยิบอินซอยและแย๊คส์ จำกัด

ดูวิดีโอของเรา